วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ที่เมรุวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการจัดพิธีฌาปนกิจศพให้กับ ผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่100ในการฌาปนกิจศพของวัดไผ่ล้อม โดยมี ญาติสนิท และคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิต มาร่วมส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยบรรยากาศโศกเศร้า ซึ่งในพิธีการเผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีความปลอดภัย และถูกขั้นตอน และจัดให้มีการพิธีการอย่างรวบรัดแต่เน้นให้ครบกระบวนการทางพุทธศาสนาครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การ ทอดผ้าบังสุกุล สวดพระอภิธรรม การถวายเครื่องไทยธรรม และการกรวดน้ำ รับพร เป็นอันเสร็จพิธี รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดเก็บกระดูกผู้เสียชีวิต เพื่อให้คนในครอบครัวผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีลอยอังคารหรือนำกลับบ้าน สำหรับพิธีการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
พร้อมกันนี้ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำพาตรวจดูรอบเมรุที่มีอายุ ถึง16ปีแล้ว แต่ด้วยการดูแลตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ ให้อยู่ในสภาพพร้อม100%อย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้มีความพร้อมเผาศพโควิด วันละ2ศพ เพราะการเผาแต่ละครั้งจะใช้เวลาเผาและพักเตารวม 5ชั่วโมง เพื่อจะทำให้เตาเผาศพมีอายุการใช้งานได้นาน และจากการสอบถามช่างผู้ทำเตาเผาศพได้ยืนยันว่าสมควรที่มีการเผาศพวันละไม่เกิน2-3ศพ แต่ถ้าหากเผาศพมากเกินไปก็จะทำให้เตาเก็บความร้อนสะสมมากๆทำให้อาจจะระเบิดแตกร้าวได้ จึงเป็นเหตุผลที่วัดไผ่ล้อมเผาศพ วันละ2-3ศพ แต่เตาเผาศพก็ยังอยู่สภาพที่ดี ไม่มีรอยแตกร้าว พร้อม100%
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวต่ออีกว่า วันนี้วัดไผ่ล้อมได้จัดพิธีเผาศพผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นศพที่ 100แล้ว ซึ่งก็เหมือนกันทุกศพที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าวัดไผ่ล้อมเป็นวัดต้นแบบในการเผาศพโควิดจนในปัจจุบันนี้ วัดทั่วประเทศหลายแห่งได้ช่วยญาติโยมเผาศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด19 และวัดไผ่ล้อมยังมีป้องกันความปลอดภัยจากการติดเชื้ออย่างดี เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานใส่ชุดPPE ป้องกันเชื้อโรคและเปลี่ยนทิ้งเมื่อจบงานทุกครั้ง ถึงจะสิ้นเปลืองแต่มีความปลอดภัยสูง ประกอบกับมีญาติโยมร่วมบุญทั้งมามอบถวายหลวงพี่ด้วยตนเองและส่งมาทางไปรษณีย์ก็มี พร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรค
สำหรับการช่วงนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ถึงขั้นโรงพยาบาลบางแห่งต้องกางเต็นท์ให้ผู้ป่วยออกมานอนรอเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลกันเต็มไปหมดหลายแห่ง และผู้เสียชีวิตก็ยังมีเพิ่มขึ้นทุกวัน จนแต่ละวัดต้องเผาศพโควิดกันวันละหลายศพจนเมรุพัง เพราะบางแห่งนานๆจะมีศพเผาสักครั้งแต่ปัจจุบันเผากันไม่เว้นวัน จนทำให้เมรุวัดบางแห่งไม่พร้อมจึงเห็นในข่าวสำนักต่างๆ และประเทศไทยถือว่ามีเมรุเผาศพมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ และในส่วนของวัดไผ่ล้อม ที่เผษศพโควิด จะมี เจ้าที่โรงพยาบาลต่างๆ และญาติผู้เสียชีวิต จะติดต่อมาที่วัดไผ่ล้อมในการขอจองเมรุรอเผาศพ ล่วงหน้าตลอด อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือมี กองทุน สวด เผา ฟรี วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ที่ไม่เคยเรียกรับเงิน แม้แต่บาทเดียวกับผู้ที่มาขอเผาศพ แต่หากญาติผู้เสียชีวิต ประสงค์ที่จะร่วมทำบุญก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่และนำปัจจัยใส่ลงในกล่อง กองทุน สวด เผา ฟรี วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ซึ่งก็จะนำไปช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์เช่น โลงศพและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึง เป็นค่าน้ำมันเผาศพอีกด้วย