พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ร่วมด้วย นายสมชาติ สาลีพัฒนา (เฮียเงี๊ยบ) เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ และคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมบุญบริจาคทรัพย์ ซื้อเตียงไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วย มอบ ให้แก่ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลนครปฐม จำนวน 25 เตียง รวมเป็นเงินจำนวน 975,000 บาท(เก้าแสนเจ็ดหมื่นห้าพันบาท) โดยมี แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม พร้อมคณะผู้บริหาร แพทย์และพยาบาลเป็นผู้รับมอบในครั้งนี้
ซึ่งพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กล่าวว่า การมอบเตียงไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วย จำนวน 25 เตียง ในครั้งนี้ ทางกองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม โดยหลวงพี่น้ำฝน ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์ หลายท่านได้พร้อมใจกันบริจาคทรัพย์ เพื่อร่วมสร้างกุศลใหญ่ ให้โรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยที่รักษาตัวในศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลนครปฐมแห่งนี้ ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งกองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ที่มี หลวงพี่น้ำฝน เป็นประธานนี้ พร้อมที่จะเดินหน้าช่วยเหลือสาธารณะสงเคราะห์ เพื่อสังคมให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด รวมทั้งได้มีการจัดมอบเตียงไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลนครปฐม มาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาได้มอบเตียงไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วย ไปแล้วจำนวนเกือบ 200เตียง นำไปใช้ ที่ อาคาร 100 ปี สาธารณสุขโรงพยาบาลนครปฐมไปแล้วก่อนหน้านี้ และในวันนี้ได้มีการมอบเตียงไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วย ซึ่งเป็นเตียงที่ได้มาตรฐาน การรับรองจาก CE. UL เป็นมาตรฐานสากล เทียบเท่ากับที่ใช้ในห้องพิเศษในโรงพยาบาลเอกชน ทำให้เป็นการยกระดับทางการดูแลและฟักฟื้นของผู้ป่วยให้เกิดความสะดวก สบายทั้งผู้ป่วย ญาติ และทีมแพทย์ พยาบาล ผู้ทำการรักษา
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ยังกล่าวต่ออีกว่า กองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน และคณะศิษยานุศิษย์ ไม่เพียงแค่ทำการมอบเตียงไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลนครปฐม เท่านั้นแต่ยังได้มอบเตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้าให้โรงพยาบาลบ้านตาก ในจังหวัดตากไปแล้วจำนวน 8 เตียง พร้อมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ อีกหลายรายการ ซึ่งเป็นตามความต้องการที่ร้องขอการสนับสนุนมา และที่ผ่านมาก็ได้ทำการมอบให้ไปแล้วหลายแห่งเช่นกัน “จากวันนั้นที่ผ่านมา ช่วงที่อาตมาได้เข้ามาเยี่ยมโยมมารดา ที่โรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งมานอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐมแห่งนี้ และพบว่าทั้งอาคารและเตียงที่รองรับผู้ป่วยนั้นมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผู้ป่วยหลายรายต้องมานอนพักที่ทางเดินนอกอาคาร บางรายต้องนอนเปลสนามเป็นภาพที่เวทนา อาตมาจึงมีเจตนาตั้งแต่นั้นมาว่าจะจัดหาเตียงที่ดีๆมาให้ผู้ป่วย ได้ใช้มากที่สุด ตามกำลังที่จะทำให้ได้ โดยมีคณะศิษยานุศิษย์หลายท่านได้แสดงเจตนาในการร่วมบุญ จนทำให้เกิดการช่วยเหลือสังคม ในโรงพยาบาลต่าง ๆตามา อีกด้วย” เจริญพร
ทั้งนี้ กองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ยังได้ตั้งเป้าว่า จะเดินหน้าทำงานเพื่องาน ด้านสาธารณะสงเคราะห์ และทำประโยชน์ให้สังคม อยู่คู่กับพระพุทธศาสนา เพราะถือเป็นกิจของสงฆ์ที่พึงปฏิบัติ แม้แต่การช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลนครปฐม ด้านบุคลากร เช่น การตั้ง คลินิกหมอครอบครัว (วัดไผ่ล้อม) โรงพยาบาลนครปฐม ที่เดินหน้าช่วยเหลือทีมแพทย์สู้ภัยโควิด-19 เนื่องจากสถานที่ในโรงพยาบาลนครปฐม เริ่มจะไม่เพียงพอต่อการให้บริการผู้ป่วยที่มีมากขึ้นทุกๆวัน
โดยคลินิกหมอครอบครัว (วัดไผ่ล้อม) ได้ให้บริการประชาชนซึ่งส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ และอาศัยในเขตอำเภอเมือง เดินทางเข้ามารับการตรวจเลือดและรับยา จากหน่วยแพทย์ คลินิกหมอครอบครัว (วัดไผ่ล้อม) ซึ่ง หลวงพี่น้ำฝน ได้ให้พระภิกษุสงฆ์ และสามเณร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อม ช่วยกันตรวจคัดกรองเบื้องต้น เท่าที่ทำได้พร้อมทั้งคอยช่วยเหลือเข็นรถวีลแชร์ให้กับผู้สูงอายุที่เดินไม่สะดวก นอกจากการให้สถานที่จัดตั้งคลินิกหมอครอบครัว (วัดไผ่ล้อม) แล้ว พระก็มีหน้าที่ในการช่วยเหลือสังคม นั่นคืองานด้านสาธารณะสงเคราะห์ เป็นหนึ่งที่อยู่ในกิจสงฆ์ อะไรที่ช่วยญาติโยมได้ก็คืองานของพระ และเป็นสิ่งที่พระสงฆ์กระทำได้ “วันนี้คณะสงฆ์พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน และยามนี้กำลังใจของทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ รวมทั้งประชาชน สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ อะไรที่วัด พระสงฆ์ ช่วยเหลือได้เป็นสิ่งที่ดีที่ต้องทำ อาตมาย้ำกับทุกคนในวัดหาก อะไรที่เป็นขวัญกำลังใจกับชาวบ้านได้ก็ให้ทำในยามนี้นั่นเอง หลวงพี่น้ำฝนได้กล่าวไว้