เย็นวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งตั้งอยู่อาคารเดียวกันเลขที่ 100/1 ม.6 ต.ถนนขาด อ.เมือง ภายในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ศาลยุติธรรม และศาลจังหวัดนครปฐม ตลอดจนข้าราชการในพื้นที่ และเหล่าพสกนิกร เฝ้ารับเสด็จ ฯ ในการนี้ ทรงวางพานพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นเสด็จฯ ไปยังอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และที่ทำการศาลจังหวัดนครปฐม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธนวราชบพิตร
นายชูตระกูล ศรีศักดา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครปฐม ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและลงพระนามาภิไธย ทั้งนี้ “ศาลอุทธรณ์ภาค 7″ จัดสร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์ภาค พ.ศ.2532 และได้มีพระราชกฤษฎีกาเปิดทำการ ซึ่งเดิมมีที่ตั้งอยู่ ณกรุงเทพมหานคร ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร ขณะที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีอรรถคดีขึ้นสู่ศาล ทั้งการอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น การยื่นคำฟ้องหรือคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยตรง เช่น คดีเกี่ยวกับการขอให้สั่งมีการเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิสมัครับเลือกตั้งหรือสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นโดยเขตอำนาจศาลครอบคลุม 8 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรีนครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสุพรรณบุรีต่อมาในปี พ.ศ.2562 จึงได้มีประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่องเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 7 จากกรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครปฐมเพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชนในการที่จะเดินทางมาติดต่อราชการศาล
ส่วน “ศาลจังหวัดนครปฐม” เดิมตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนเทศา ตำบลพระปฐมเจดีย์อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอประกอบด้วย อ.กำแพงแสน อ.ดอนตูม อ.นครชัยศรี อ.บางเลน อ.พุทธมณฑล อ.เมืองนครปฐม และ อ.สามพราน โดยอาคารที่ทำการนั้นรวมอยู่ในอาคารเดียวกับสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 และศาลแขวงนครปฐม ประกอบกับมีปริมาณคดีเพิ่มมากขึ้นตามความเจริญของ จ.นครปฐม ส่งผลให้ที่ทำการเดิมคับแคบ ไม่สามารถรองรับปริมาณคดีที่เพิ่มมากขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อให้การบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพ ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร สำนักงานศาลยุติธรรม จึงดำเนินการสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม ในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม ซึ่งอาคารหลังนี้เป็นอาคาร 3 ชั้น ใช้เป็นที่ทำการร่วมกันของศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีบัลลังก์สำหรับนั่งพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 7 จำนวน 1 บัลลังก์และของศาลจังหวัดนครปฐม จำนวน 18 บัลลังก์ โดยอาคารที่ทำการของทั้งสองศาลได้สร้างสำเร็จสมบูรณ์แล้ว อาคารมีความกว้างขวาง เครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยเหมาะสมพร้อมให้บริการประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นอย่างดี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม– ภาพ/ข่าว