เมื่อวันที่13 เมษายน พ.ศ. 2563 ที่ลานหน้าพระอุโบสถ วัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะพระสงฆ์วัดไผ่ล้อม สวดเจริญพระพุทธมนต์เสริมมงคลในวันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย เพื่อเสริมมงคลหน้ากากผ้ามัสลิน “ยันต์นะปัดตลอด” เพิ่มความเป็นมงคลกับผู้สวมใส่ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งไม่เป็นมงคล โรคภัยไข้เจ็บ สิ่งร้ายๆให้ออกไปหายไป จากโลกเรา โดยมีนายสมชาติ(เฮียเงี๊ยบ) สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบพุทธมณฑลสาย4 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และมีพราหมณ์คณะศิษย์มีครู อ่านโองการ บูชาเทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสากล ก่อนที่พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จะนำคณะพระสงฆ์วัดไผ่ล้อม สวดเจริญพระพุทธมนต์ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาชะล้างสิ่งไม่ โรคภัยร้ายต่างๆ ด้วยพระคาถา บทสวดธรรมจักรกัปปะวัตตะนะสูตร พระคาถาชินบัญชร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก. บทสวดมหาสมัยสูตร. มงคลจักรวาลใหญ่ คาถาป้องกันภัยสิบทิศ บทจันทะปริตตปาฐิ บทสุริยปริตตปาฐิ ฯลฯเพื่อเป็นความเป็นสิริมงคล ขจัดปัดเป่า โรคร้ายๆให้ออกไปหายไป ให้คงไว้แต่สิ่งที่ดีมีมงคล เพื่อให้ หน้ากากผ้ามัสลิน“ยันต์นะปัดตลอด” มีความเป็นมงคลกับผู้สวมใส่ ตลอดไป
หลวงพี่น้ำฝน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้วัดไผ่ล้อมไม่ได้จัดกิจกรรมใดๆเพียงแต่มีการเจริญพระพุทธมนต์ วัดไผ่ล้อมก็ทำเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว เปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้ญาติโยมทั้งหลายในวันสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย ทั่วประเทศ ทั่วโลกนั่นเอง เราใช้บทพระพุทธมนต์ของพระพุทธเจ้า เป็นหลักชัย เพราะการกำหนดเวลาในการทำพิธีแล้ว เมื่อถึงเวลาไม่ว่าจะแดดออก หรือฝนตก ถ้าเราตั้งใจมุ่งมั่นแล้วเราก็ต้องทำ เฉกเช่นในการเจริญพระพุทธมนต์นี้ คือบทธรรมจักรกัปวัตนสูตร ซึ่งเป็นบทหลักที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้นได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และในวันนี้เป็นวันสงกรานต์และอยู่ในช่วงที่ทุกสถานที่ ทุกแห่งปิดการเคลื่อนไหวทั้งหมด และการสวดมนต์แผ่เมตตาบารมีในครั้งนี้ ก็คือพระมีหน้าที่จะต้องสวดมนต์ มีหน้าที่ให้หลักธรรม ในการที่จะดำเนินชีวิตโดยเฉพาะขวัญและกำลังใจ การเจริญพระพุทธมนต์นั้นเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ทุกๆรูป อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาจึงได้จัดการเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ญาติโยมทั้งหลาย โดยเฉพาะโรคระบาดที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ มีอย่างเดียวที่พระจะทำได้ก็คือการเจริญพระพุทธมนต์ จากการที่ผู้สื่อข่าวได้ กราบนมัสการถาม หลวงพี่น้ำฝน ถึง หน้ากากผ้ามัสลิน “ยันต์นะปัดตลอด” ในวันนี้ถึงกระแสร์ว่าเป็นอย่างไร
หลวงพี่น้ำฝน ได้กล่าวอีกว่า การเจริญพระพุทธมนต์เป็นบทที่สำคัญที่สุด หน้ากากผ้านี้ช่วยได้ร้อยเปอร์เซน ขอให้ท่านทั้งหลายอนาคตข้างหน้าจะต้องมีพกกันไว้ติดตัวกันตลอด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากแบบไหนก็แล้วแต่ ขอให้ท่านพกแล้วเดินทางไปไหนก็ขอให้ใส่ เพื่อจะได้ใช้ มันใช้ได้จริง แล้วก็พูดง่ายๆทำให้โรคภัยไข้เจ็บมันทุเลาเบาบางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ถึงได้บอกว่าอนาคตข้างหน้ามันต้องมีหน้ากากแบบนี้ใช้ไปตลอดชีวิตแล้ว และตอนนี้ทางวัดทำทุกสิ่งทุกอย่างทันหมดแล้ว หน้ากากผ้ามัสลิน “ยันต์นะปัดตลอด”ได้กลุ่มชาวบ้านที่เย็บหน้ากากอนามัยอย่างแท้จริง เป็นชาวบ้านล้วนๆเลยที่เป็นผู้ผลิต อาตมาก็เป็นผู้ที่ให้งานญาติโยมทั้งหลายไปทำ ในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใก้ลเคียงอีกด้วย ก็ได้รับอานิสงค์ที่ให้ญาติโยมได้มีงานทำ ได้นำ หน้ากากผ้ามัสลิน “ยันต์นะปัดตลอด” ไปเย็บและได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ได้นำ หน้ากากผ้ามัสลิน “ยันต์นะปัดตลอด” ทั้งที่เสร็จแล้วใส่ซองไปรษณีย์ไว้เตรียมส่ง ทั้งที่ตัดแล้ว และเป็นม้วนผืนผ้า ไว้ในพิธีก่อนที่จะจัดส่งได้ในวันพรุ่งนี้ต่อไป ตอนนี้ใครที่จะสั่งมาทางวัดไผ่ล้อมก็พร้อมที่จะส่ง ใครมาก็จะได้ของกลับไปอย่างแน่นอน โดยขอยืนยันว่าตอนนี้ทันแล้ว โดยกลุ่มแม่บ้านทำด้วยฝีมือปราณีต เมื่อท่านได้รับไปก็จะมีแต่ความสุขนั่นเอง แม้กระทั่งตอนนี้ก็มีสื่อของประเทศญี่ปุ่นหลายสำนักให้ความสนใจ มาถ่ายทำเรื่อง หน้ากากผ้ามัสลิน “ยันต์นะปัดตลอด”วัดไผ่ล้อม ก็ขอรณรงค์ให้ใช้หน้ากากอนามัย ซึ่ง “กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วแก้ไม่ทัน” หลวงพี่น้ำฝน ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้