วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2563 เวลา 10.39 น. ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ สาย 4 นายสมชาติ สาลีพัฒนา)เฮียเงี๊ยบ) ร้านก๋วยเตี๊ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ มอบเงิน 1 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยรักผู้ป่วยโควิด-19 ให้โรงพยาบาลศิริราช โดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้รับมอบเงิน
นายเงียบกล่าวว่าปกติทางร้านมีโครงการที่ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เช่นเตียงผู้ป่วย บริจาคให้โรงพยาบาลร่วมกับมูลนิธิหลวงพ่อพูลของวัดไผ่ล้อมอยู่แล้ว แต่เนื่องจากในช่วงนี้มีปัญหาเรื่องโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคที่เกิดกระทันหันและมีความสำคัญทำให้ตามโรงพยาบาลขาดยา ขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์จึงเห็นว่าสมควรนำงบเงินตัวนี้มาใช้ก่อนซึ่งเงินจำนวนนี้ก็เป็นของลูกค้าที่ร่วมกันมาตั้งแต่ต้นจึงขอมอบเงินหนึ่งล้านบาทให้กับโรงพยาบาลศิริราชและขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนคนไทยต่อสู้กันไปให้ได้
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าสถานการณ์โควิด-19 ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ จังหวัดที่พบมากที่สุดคือในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากกรุงเทพเราเป็นศูนย์ใหญ่มีหน้าที่ในการรองรับคนไข้โดยเฉพาะคนไข้ที่มีอาการหนักดังนั้นการที่เราจะรองรับผู้ป่วยผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้ดีเช่นห้องไอซียูย่อมต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีราคาสูงด้วย ดังนั้นจึงต้องขอขอบคุณประชาชนที่เล็งเห็นความสำคัญนี้ร่วมกันบริจาคให้โรงเรียนแพทย์ต่างๆในการเตรียมตัวอุปกรณ์ทางการแพทย์ในกอนีที่เราต้องรักษาคนไข้ที่มีอาการหนัก นอกจากอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้วเรายังต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่นชุดหมี หน้ากาก N95 ดังนั้นถ้าเกิดคนไทยทุกคนร่วมกันในการช่วยกันบริจาคทั้งที่เป็นสิ่งของหรือว่าเป็นเงินบริจาคล้วนแต่มีส่วนช่วยในการที่เราจะต่อสู้เรื่องไวรัสโควิด-19 ในของศิริราชเองปัจจุบันมีคนไข้หนักที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ทั้งหมด 6 คนและในทุกๆชั่วโมงต่อหนึ่งคนจะใช้อย่างน้อย 30 ชุด เพราะฉะนั้นวันหนึ่งคร่าวๆเลย มีความจำเป็นต้องใช้ประมาณ 200 ชุดต่อวันดังนั้นถ้าเกิดว่าเราไม่มีอุปกรณ์พวกนี้เข้ามาเติมในอนาคตการให้บริการรักษาผู้ป่วยอาจจะไม่สามารถกระทำได้อย่างปลอดภัย หลายหลายครั้งเราไม่สามารถหาซื้อได้เนื่องจากว่าขาดแคลน ก็อยากจะเชิญชวนประชาชนผู้ที่มีอุปกรณ์พวกนี้ที่โรงพยาบาลไม่สามารถหาซื้อได้ก็อาจจะมาช่วยบริจาคซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาประชาชน
