สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กรมควบคุมโรค แนะประชาชนดูแลสุขภาพ ระวังป่วยด้วยโรคไข้ไม่ทราบสาเหตุ โดยพบว่ามักเกิดจากโรคติดเชื้อที่เป็นการติดเชื้อทั้งระบบ อาจเกิดการติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อ โดยกลุ่มโรคที่มีการติดเชื้อ ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ไข้รากสาดน้อย ไข้รากสาดใหญ่ ไข้มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ ไข้ออกผื่น หัดเยอรมัน ไข้ติดเชื้อไวรัส ไข้โรคฉี่หนู เป็นต้น ส่วนกลุ่มโรคที่ไม่มีการติดเชื้อ แต่มีอาการเป็นไข้ ได้แก่ โรคเอสแอลอี โรคภูมิต้านทาน โรคมะเร็ง เป็นต้น
นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กล่าวว่าโรคไข้ไม่ทราบสาเหตุ (Fever of Unknown Origin หรือFUO) เป็นโรคที่มีอาการเหมือนกับโรคไข้หวัดทั่วไป นอกจากนั้นยังมีอาการที่คล้ายกับโรคอื่นๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของเชื้อโรคที่มีการติดเชื้อ โดยพบว่ามักเกิดจากโรคติดเชื้อ โดยในประเทศไทยมักพบในกลุ่มของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นส่วนใหญ่ ผู้ป่วยมีอาการเป็นไข้สูง อุณหภูมิมากกว่า 38.3 องศา หรือ มากกว่า 101 องศาฟาเรนไฮต์ นานกว่า 7 วัน โดยมีอาการเบื้องต้น ได้แก่ อาการปวดหัวเรื้อรัง อ่อนเพลีย เมื่อยตัวกล้ามเนื้อ ง่วง มีอาการสั่นหรืออาการกดเจ็บ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า ไข้เฉียบพลัน (Acute Febrile illness) ที่เป็นการติดเชื้อทั้งระบบที่ไม่ใช่การติดเชื้อเฉพาะที่หรือสามารถระบุตำแหน่งติดเชื้อได้ แต่เกิดพร้อมกันหลายจุด หรือเรียกทางการแพทย์ว่า “ไข้เฉียบพลัน หรือ ไข้ไม่ทราบสาเหตุชนิดเฉียบพลัน”
นายแพทย์สมาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับการป้องกัน และการรักษาที่ถูกต้องควรปฏิบัติดังนี้ 1. ควรรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 2. ควรทำความสะอาดบ้านเรือน รวมถึงอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้อย่างสม่ำเสมอ 3. ควรดูแลทำความสะอาดร่างกายเป็นประจำ รวมถึงเครื่องนุ่งห่มต่างๆ สำหรับการรักษาที่ถูกต้อง แพทย์จำเป็นต้องวินิจฉัยให้ทราบสาเหตุของโรคเสียก่อน และจะให้ยารักษาตามอาการที่ปรากฏเพื่อบรรเทาอาการของโรค เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด เป็นต้น แต่โดยปกติ หากเราเป็นไข้จะหายเองภายใน 3-7 วัน แต่ถ้าหากหลังวันที่ 7 ไปแล้วอาการดังกล่าวยังไม่หายดีให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ ของโรคเป็นการดีที่สุด แต่ทั้งนี้หากมีอาการไม่สบายเป็นไข้ในช่วงระยะ 2-3 วันแรก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 นายแพทย์สมาน กล่าวปิดท้าย