โบสถ์เก่า วิหารบูรพาจารย์ วัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง (นครปฐม) ยุคสมัยหลวงพ่อพูล เสียหายจากแรงสั่นสะเทือนเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา
วันที่ 29 มีนาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 13.25 น. ซึ่งหลายแห่งได้มีความแตกตื่นไปทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่หลายจังหวัดซึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้รับแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้ง 7 อำเภอ ทำให้ประชาชนต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดจากอาคารสูงและบ้านเรือน ร้านค้าด้วยความโกลาหลไม่ต่างจากทุกจังหวัดที่มีแรงสั่นสะเทือนมาถึง
โดยวันนี้หลายแห่งได้มีการตรวจสอบความเสียหายจากผลกระทบโดยตรงจากแรงสั่นสะเทือนซึ่งที่วัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง (นครปฐม) ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งได้มีการนำเสนอว่าช่วงที่มีการเกิดเหตุแผ่นดินไหว คณะสงฆ์ได้ประกอบพิธีปาฎิโมกข์ ภายในโบสเฉลิมพระเกียรติ และมีการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจน แต่คณะสงฆ์ได้ตั้งสติและไม่ได้มีการวิ่งหนีออกจากโบสถ์ขณะประกอบพิธีและได้กำหนดให้มีสวดบทจบให้เสร็จสิ้นแบบรวบรัดก่อนจะค่อยๆ เดินออกมาเพื่อหาที่ปลอดภัย และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าที่โบสถ์หลังเก่า อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2490 ในสมัยที่พระเดชพระคุณพระมงคลสิทธิการ หรือหลวงพ่อพูล อัตตรักโข อดีตเจ้าอาวาส เกจิเถราจารย์ของจังหวัดนครปฐมท่านได้สร้างไว้ เกิดความเสียหายเป็นรอยร้าวที่ตัวอาคารหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งได้แสดงถึงการแตกของปูนที่แยกตัวจากกันและมีเศษปูนเก่า แตกเสียหายหลายแห่ง ซึ่งพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งและเตรียมตรวจสอบความปลอดภัยให้แน่ชัดเพื่อความมั่นใจ โดยเตรียมจะให้ทีมวิศวกรและช่างเฉพาะทางเข้ามาสำรวจความเสียหายอีกครั้ง เพื่อเตรียมบูรณะปฏิสังขรณ์ต่อไป
สำหรับโบสถ์หลังเก่าวัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง (นครปฐม) มีลักษณะรูปทรงเป็นแบบทรงไทยประยุกต์ โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ตีฝ้าเพดานด้วยไม้ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2492 เป็นเงินจำนวนเท่าใดไม่ปรากฏหลักฐาน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2490 อุโบสถหลังนี้มีขนาด กว้าง 12 เมตร ยาว 32 เมตร ซึ่งจะถูกเรียกขานว่า วิหารบูรพาจารย์