หลวงพี่น้ำฝนจัดเต็ม พิธีทิ้งกระจาดประจำปี 2567 โดยนำข้าวสารอาหารแห้ง และน้ำอัดลมที่มีคนมาถวายกุมารสมบัตินับ 100,000 ขวด แจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ที่เข้ามาร่วมในงานโดยมีการเป็นสะพานบุญนำกองทัพบุญวัดไผ่ล้อมแจกเงินสดให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมงานจากทั่วสารทิศเกือบหมื่นคน คนละ 100 บาทเป็นถุงกลับบ้าน ทำชาวบ้านยิ้มแก้มปริได้รับใบบุญกลับบ้านจากวัดไผ่ล้อม
วันที่ 25 สิงหาคม 67 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน หลวงพี่น้ำฝนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กำหนดการจัดงานพิธีทิ้งกระจาด โปรยทาน โปรยบุญ ประจำปี พ.ศ.2567 โดยมีกองทัพสายบุญวัดไผ่ล้อม อาทิ นาย เติมศักดิ์ ปิติธนสารสมบัติ (เสี่ยดำ) นายสมชาติ สาลีพัฒนา (เจ้าสัวเงี๊ยบ) นางเบญจวรรณ ริทเทอร์ จอมโหด ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน นักมวยไทยชื่อดัง และกลุ่มนักธุรกิจแบรนด์ดัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว หมีปรุง และภาคร้านค้าที่พร้อมใจกันนำข้าวสาร อาหารแห้ง นำอัดลม และเปิดโรงทาน เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ ที่มารอรับการแจกเครื่องยังชีพเกือบหนึ่งหมื่นชีวิต โดยทำให้บรรยายกาศภายในและหน้าวัดไผ่ล้อมเต็มไปด้วยผู้คน จนต้องมีการประสานงานเจ้าหน้าที่มาจัดบริกรอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ตั้งแต่ช่วงเช้า
โดยพิธีการเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ได้มีการจัดพิธีการโดยคณะสงฆ์อนัมนิกาย บริเวณตำหนักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามพิธีการทิ้งกระจาดที่สืบสานต่อกันมา และเปิดโรงทานให้กับประชาชนได้รับประทานอาหาร เครื่องดื่มฟรี โดยมีร้านค้ามาเปิดซุ้มอาหารแจกจ่ายให้เพื่อเป็นการรอพิธีการในช่วงบ่าย
จากนั้นเวลา 15.00 น. เป็นการแจกทานให้กับผู้ยากไร้ ซึ่งในปีนี้มีประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งในจังหวัดนครปมและจังหวัดใกล้เคียง เรือนหมื่นต่างได้ทยอยเข้ามาจับจองคิวในการรับแจกเครื่องใช้ในการยังชีพเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง ซึ่งในปีนี้มีการแจกน้ำแดงอัดลมให้กับผู้มาร่วมงานคนละ 1 แพค เนื่องจากที่ผ่านมาไม่นานนี้ได้มีคนนำน้ำอัดลมมาถวายแก้บนให้กับกุมารสมบัตินับแสนขวด ทำให้คนที่มาร่วมงานต่างมีรอยยิ้มถ้วยหน้า นอกจากนี้คณะทัพบุญวัดไผ่ล้อมได้มีการ แจกเงินให้กับคนที่มารอรับของบริจาคทุกคน คนละ 100 บาท ยิ่งทำให้คนภายในงานทั้งเด็กและคนชราต่างๆ มีความสุขที่ได้รับทั้งของแจกและเงินสดกลับบ้านในปีนี้ด้วย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ในปีนี้วัดไผ่ล้อมยังคงทำพิธีทิ้งกระจาดเหมือนเดิมแต่คนก็มาเยอะมากกว่าปีทีแล้ว ซึ่งทางเจ้าภาพที่มาร่วมงานพยายามให้ทุกคนได้รับแจกของยังชีพ ให้ได้ครบถ้วนทุกคน ซึ่งหากใครที่ยังได้ของไม่ครบก็จะมีการเพิ่มเงินปัจจัยในการยังชีพให้ งานนี้ถือเป็น ภารกิจที่วัดไผ่ล้อมได้ทำเพื่อญาติโยมมาตลอดนอกเหนือจากการช่วยเหลือในการแจ้งเตียงผู้ป่วย รถวีลแชร์ หรือประสานงานความช่วยเหลือทางด้านต่างๆให้กับญาติโยม โดยวางเป้าหมายให้วัดไผ่ล้อมเป็นศูนย์กลางแห่งการช่วยเหลือทุกรูปแบบและเป็นงานด้านสาธารณะสงเคราะห์ที่คณะสงฆ์พึงจะต้องกระทำให้กับญาติโยมนั่นเอง