เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ หน้าวิหารหลวงพ่อพูล อัตตรักโข วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นองค์ประธานในพิธีพิธีบวงสรวงพระพรหมประกาศิต หนึ่งเดียวในโลก และอาบน้ำคืนวันเพ็ญ วันลอยกระทง โดยมีคณะพระสงฆ์วัดไผ่ล้อมสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อน้อมสักการะ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ในการสืบสานพิธีโบราณ อาบน้ำมนต์คืนวันเพ็ญ ตำรับหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
โดยมีคณะศิษย์ร่วมกันจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธ์ เทพยดา พร้อมจุดเทียนโอ่งน้ำมนต์ ซึ่งในวันนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันลอยกระทง เป็นวันที่แหล่งน้ำทุกแห่ง จะมีประชาชนพากันไปวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลองและตามที่มีท่าน้ำ หรือไปตามริมแม่น้ำ เพื่อลอยกระทงบูชา ขอขมาพระแม่คงคา ตามขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบสานกันมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งวันเพ็ญเดือน 12 ในแต่ละปีจะเป็นวันที่พระจันทร์จะเต็มดวงสว่างไสว สวยงาม จึงมีการขอพรในการทำสิ่งใดๆให้เกิดเป็นมงคลแก่ชีวิต สำเร็จในสิ่งที่ได้ภาวนาขอพร
ในวันนี้วัดไผ่ล้อมได้จัดให้มีพิธีมหามงคลตามตำรับหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บูรพาจารยย์ผู้เข้มขลังและมีเมตตา ตั้งแต่เวลา 21.00น. สจนถึงเวลา 24.00 น. โดยหลังจากพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เสร็จแล้ว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นผู้ตักน้ำพระพุทธมนต์ที่คณะสงฆ์ได้สวดมนต์พิธีอันศักดิ์สิทธิ์ อาบให้แก่คณะศิษย์และผู้ร่วมในพิธี ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำทิพย์มหามงคลมาอาบน้ำชำระร่างกาย ชำระสนิมที่เกาะติดในใจ ล้างสิ่งไม่ดีให้ออกไป และให้ต่อจากนี้ไปจงมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในบวรพุทธศาสนา เจริญในหน้าที่การงาน ค้าขายดี มีกำไร ร่ำรวยเงินทอง
ในส่วนของพระพรหมประกาศิต ที่นำมามาประดิษฐานที่ศาลหน้าศาลาหลวงพ่อพูล มีขนาดเท่าคนจริง มีพุทธศิลป์ที่งดงามโดยประทับอยู่บนฐานบัวเหนือพญาหงส์ที่ลอยอยู่เหลือก้อนเมฆ ซึ่งไม่เคยปรากฏการสร้างพุทธศิลป์ในรูปแบบนี้มาก่อน ก่อนหน้าได้ประดิษฐานในพื้นที่ตั้งกุฎิหลวงพ่อพูล ก่อนจะย้ายมาที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร กระทั่งมีการบูรณะศาลาหลวงพ่อพูลแล้วเสร็จจึงได้มีการจัดสร้างและมีพิธีตั้งศาลพระพรหมประกาศิต ก่อนจะมีพิธีบวงสรวง ด้วยเครื่องเซ่นสังเวย และมีนางรำมารำถวาย พระพรหมประกาศิต เพื่อเป็นการแสดงสักการะ อีกด้วย